หัวเทียนรถยนต์: ชิ้นส่วนเล็กที่สำคัญ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่? พร้อมวิธีเช็กอาการเสีย

October 30, 2025 รถยนต์ หัวเทียนรถยนต์: ชิ้นส่วนเล็กที่สำคัญ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่? พร้อมวิธีเช็กอาการเสีย

หัวเทียนรถยนต์: ชิ้นส่วนเล็กที่สำคัญ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่? พร้อมวิธีเช็กอาการเสีย

 

หัวเทียน (Spark Plug) คือชิ้นส่วนสำคัญในระบบจุดระเบิดของเครื่องยนต์เบนซิน ทำหน้าที่สร้างประกายไฟเพื่อจุดระเบิดส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศในห้องเผาไหม้ การทำงานที่สมบูรณ์ของหัวเทียนจึงส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะของรถยนต์และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง หากหัวเทียนเสื่อมสภาพหรือชำรุด อาจนำไปสู่ปัญหาการขับขี่ที่น่ารำคาญและค่าซ่อมที่บานปลายได้

 

หัวเทียนรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่?

 

อายุการใช้งานของหัวเทียนจะขึ้นอยู่กับประเภทของหัวเทียนและคำแนะนำจากผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งโดยทั่วไปมีดังนี้:

ประเภทหัวเทียนอายุการใช้งานโดยประมาณ (กิโลเมตร)
หัวเทียนนิกเกิล (Nickel)8,000 - 20,000 กม.
หัวเทียนแพลทินัม (Platinum)40,000 - 60,000 กม.
หัวเทียนอิริเดียม (Iridium)80,000 - 100,000 กม. หรือมากกว่า

 ข้อควรจำ: ระยะเวลาที่ควรเปลี่ยนเป็นเพียงค่าเฉลี่ย สิ่งสำคัญที่สุดคือการตรวจสอบตามระยะทางที่ระบุไว้ในคู่มือประจำรถยนต์ของคุณ หรือเมื่อเริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติของรถยนต์

 

อาการ "หัวเทียนเสีย" ที่ควรสังเกต

 

หากหัวเทียนเริ่มเสื่อมสภาพหรือ "หัวเทียนบอด" จะส่งผลให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ และแสดงอาการที่สังเกตได้ง่าย ดังต่อไปนี้:

เครื่องยนต์สั่น สะดุด หรือกระตุก: เป็นอาการที่สังเกตได้ชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะขณะรอบเดินเบา หรือเมื่อเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งความเร็ว รถจะมีอาการวูบ หรือสะอึก เหมือนจะติด ๆ ดับ ๆ

รถสตาร์ทติดยาก: ต้องบิดกุญแจหรือกดปุ่มสตาร์ทนานกว่าปกติ หรือสตาร์ทไม่ติดเลย

กำลังเครื่องยนต์ลดลง (รถอืด): เหยียบคันเร่งแล้วรถไม่พุ่ง หรือเร่งแซงได้ไม่ทันใจ รู้สึกว่ารถไม่มีกำลังเหมือนเดิม

สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น: เนื่องจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้นและใช้น้ำมันมากกว่าปกติ

รอบเดินเบาไม่นิ่ง: มีเสียงสั่นผิดปกติในขณะที่รถจอดนิ่งหรือเดินเบา

มีควันดำหรือไอเสียเหม็นผิดปกติ: เกิดจากมีเชื้อเพลิงที่ไม่ถูกเผาไหม้หลุดออกมากับไอเสีย

 

วิธีการตรวจเช็กเบื้องต้น

 

นอกจากสังเกตจากอาการแล้ว การตรวจเช็กสภาพหัวเทียนด้วยตาเปล่า ก็สามารถบ่งบอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ได้ เช่น:

หัวเทียนแห้งและมีคราบสีน้ำตาลอ่อน: ปกติ แสดงว่าการเผาไหม้สมบูรณ์

หัวเทียนดำและแห้ง (มีคราบเขม่าคาร์บอน): ผิดปกติ อาจเกิดจากการเผาไหม้ไม่หมดจด หรือหัวเทียนเย็นเกินไป

หัวเทียนเต็มไปด้วยน้ำมันเครื่อง: ผิดปกติร้ายแรง อาจเกิดจากเครื่องยนต์หลวม หรือมีปัญหาระบบซีลน้ำมัน

เขี้ยวหัวเทียนสึกหรอ หรือขั้วไหม้: ผิดปกติ แสดงว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนหัวเทียนใหม่แล้ว

 

สรุปและข้อแนะนำ

 

การเปลี่ยนหัวเทียนตามระยะเวลาที่เหมาะสม และการใส่ใจกับอาการผิดปกติของรถยนต์ จะช่วยรักษาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ลดการใช้เชื้อเพลิงที่สิ้นเปลือง และช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย หากพบอาการข้างต้น ควรรีบนำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่ไว้ใจได้ทันที เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชิ้นส่วนอื่น ๆ ในระบบเครื่องยนต์