รถเก่าเกิน 10 ปี ไม่ใช่ว่าจะทำประกันไม่ได้!

October 04, 2025 รถยนต์ รถเก่าเกิน 10 ปี ไม่ใช่ว่าจะทำประกันไม่ได้!

     หลายคนที่มีรถยนต์อายุมากกว่า 10 ปี มักจะเกิดคำถามว่า “รถเก่าแล้ว ยังจำเป็นต้องทำประกันภัยหรือไม่?” โดยเฉพาะเมื่อค่าเบี้ยประกันสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่มูลค่ารถกลับลดลงทุกปี แต่ความจริงแล้ว การทำประกันภัยรถยนต์ไม่ใช่เรื่องของความใหม่หรือเก่าของรถเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการป้องกันความเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่ตลอดเวลา

ในบทความนี้ เราจะมาดูกันอย่างละเอียดว่าทำไมรถอายุเกิน 10 ปียังควรทำประกัน และประกันประเภทใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถของคุณ

ทำไมรถอายุ 10 ปีขึ้นไปยังควรมีประกัน?

1. อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ

ไม่ว่ารถคุณจะใหม่เอี่ยม หรือผ่านการใช้งานมาเป็นสิบปี อุบัติเหตุก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นทุกครั้งที่คุณขับรถบนถนน แม้คุณจะขับรถอย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่สามารถควบคุมการขับขี่ของผู้อื่นได้ การทำประกันจึงช่วยแบ่งเบาความรับผิดชอบเมื่อเกิดอุบัติเหตุโดยไม่คาดคิด

2. ความคุ้มครองบุคคลภายนอกเป็นสิ่งจำเป็น

ตามกฎหมาย ทุกคันต้องมี พ.ร.บ. รถยนต์ อยู่แล้ว เพื่อคุ้มครองชีวิตและร่างกายบุคคลภายนอก แต่พ.ร.บ.ไม่ครอบคลุมความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือรถยนต์ของคู่กรณี ดังนั้นการทำประกันภัยภาคสมัครใจ (ไม่ว่าจะเป็นชั้น 1, 2+, 3+) ก็ยังมีความจำเป็น เพราะช่วยคุ้มครองทั้งทรัพย์สินของผู้อื่นและตัวคุณเอง

3. รถเก่า ไม่ได้หมายความว่าความเสียหายจะน้อย

หลายคนเข้าใจว่า “รถเก่าแล้ว ชนไปก็ซ่อมไม่คุ้ม” แต่ถ้ารถของคุณไปชนรถหรูราคาหลายล้าน คุณยังต้องจ่ายค่าซ่อมให้คู่กรณีอยู่ดี ซึ่งอาจเป็นภาระค่าใช้จ่ายหลักแสนถึงหลักล้าน ประกันจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณต้องจ่ายเองทั้งหมด

4. ค่าใช้จ่ายซ่อมรถเก่ามีโอกาสสูงขึ้น

รถที่มีอายุมากกว่า 10 ปี มักจะมีการเสื่อมสภาพของอะไหล่และระบบต่าง ๆ การเกิดอุบัติเหตุแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็อาจสร้างความเสียหายได้มากกว่ารถใหม่ที่มีโครงสร้างแข็งแรงกว่า การมีประกันไว้จึงเป็นการลงทุนเพื่อความอุ่นใจ

5. ประกันรถเก่ามีตัวเลือกที่คุ้มค่า

ปัจจุบันบริษัทประกันภัยหลายแห่งมี แผนประกันสำหรับรถยนต์เก่าโดยเฉพาะ เช่น ประกันภัยชั้น 2+ หรือ 3+ ที่เบี้ยถูกลงกว่าชั้น 1 หลายเท่า แต่ยังครอบคลุมกรณีรถชน รถหาย หรือไฟไหม้ ทำให้ผู้ใช้รถเก่ายังเข้าถึงความคุ้มครองได้ง่าย

 

ประกันภัยประเภทไหนที่เหมาะกับรถอายุ 10 ปีขึ้นไป?

1. ประกันภัยชั้น 1 (บางกรณียังทำได้)

แม้รถจะอายุ 10 ปี แต่บางบริษัทก็ยังมีการรับทำประกันชั้น 1 สำหรับรถที่สภาพดี ใช้งานสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับคนที่ยังต้องใช้รถบ่อยและไม่อยากเสี่ยงรับผิดชอบเองหากเกิดอุบัติเหตุ

2. ประกันภัยชั้น 2+

เหมาะกับรถเก่าที่ใช้งานทุกวัน ให้ความคุ้มครองกรณีชนกับคู่กรณีที่มีหลักฐานชัดเจน รวมถึงไฟไหม้และรถหาย ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมเพราะเบี้ยถูกลงแต่คุ้มครองเกือบครบ

3. ประกันภัยชั้น 3+

คุ้มครองเฉพาะกรณีที่มีคู่กรณี และคุ้มครองชีวิต/ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เหมาะกับรถที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ค่อยนำไปขับระยะทางไกลมาก

4. ประกันภัยชั้น 3

เป็นแผนที่เบี้ยถูกที่สุด ให้ความคุ้มครองคู่กรณีเท่านั้น ไม่ครอบคลุมความเสียหายต่อตัวรถของเรา เหมาะสำหรับคนที่อยากจ่ายเบี้ยประกันน้อยที่สุด แต่ยังต้องการป้องกันความเสี่ยงด้านกฎหมายและค่าใช้จ่ายคู่กรณี

 

เคล็ดลับเลือกประกันสำหรับรถอายุ 10 ปี

  1. ประเมินสภาพรถ – ถ้ารถยังสภาพดีและใช้งานบ่อย อาจเลือก 2+ หรือ 3+ เพื่อความคุ้มครองที่เพียงพอ
  2. พิจารณางบประมาณ – เลือกประกันที่คุณจ่ายไหวต่อเนื่องทุกปี ไม่สร้างภาระการเงินเกินไป
  3. เลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ – ตรวจสอบรีวิว บริการหลังการขาย และเงื่อนไขการเคลมให้ชัดเจน
  4. อย่ามองข้ามพ.ร.บ. – แม้จะเลือกทำประกันแบบไหนก็ตาม ต้องมีพ.ร.บ.ทุกปี เพราะเป็นกฎหมายบังคับ
  5. ถามตัวแทนประกันโดยตรง – บางครั้งรถที่คุณใช้ยังสามารถต่อชั้น 1 ได้ ควรถามเพื่อเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ

 

สรุป

แม้รถของคุณจะอายุ 10 ปีขึ้นไป แต่ก็ยังควรทำประกัน เพราะความเสี่ยงยังคงมีอยู่ตลอดเวลา การเลือกประเภทประกันที่เหมาะสมจะช่วยปกป้องคุณจากค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ และเพิ่มความอุ่นใจทุกครั้งที่ขับรถบนถนน

รถเก่าไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำประกัน แต่เป็นเหตุผลที่คุณควรเลือกประกันให้ “คุ้มค่า” มากที่สุด

 

     สำหรับใครที่มองหาประกันภัยรถยนต์ราคาถูก และตรงกับความต้องการ สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อรับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด

                     สนใจทำประกันภัยรถยนต์ คลิก!